ราคาคาร์บอนเครดิตทั่วโลก ลดลงอย่างรุนแรงในปี 2023 ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มปี 2024 อย่างไร
  • 14 มีนาคม 2567
  • 207 ครั้ง
ราคาคาร์บอนเครดิตทั่วโลก ลดลงอย่างรุนแรงในปี 2023 ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มปี 2024 อย่างไร
.
มุมมองจาก S&P Global หลังสรุปข้อมูล การประเมินราคาคาร์บอนเครดิต ในปี ค.ศ. 2023 แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของราคาคาร์บอนเครดิตที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ โครงการประเภท REDD+ ตามมาตรฐานการรับรอง VERRA อีกทั้งการประชุม COP28 ณ ประเทศดูไบ ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ยังไม่มีแนวทางและข้อสรุปที่ชัดเจน ในประเด็นความตกลงปารีสข้อ 6.4 (Article 6.4 Mechanism) คาดว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาด อาจส่งผลให้แนวโน้มราคาในปี ค.ศ. 2024 นี้ลดลง โดยเฉพาะคาร์บอนเครดิตรูปแบบ Standardized contracts ที่ทำการซื้อขายผ่าน Exchange platform
.
ในปี 2023 ดัชนีราคา Platts CEC ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำหรับคาร์บอนเครดิตที่สามารถใช้ชดเชยในภาคการบิน (CORSIA eligible credit) เผชิญสภาวะราคาตกต่ำอย่างรุนแรง เนื่องจากหลายสายการบินไม่มีความต้องการซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยเพราะสถานการณ์โควิด ดังนั้น โดยภาพรวมของดัชนีจึงลดลงกว่า 78% จากราคา ณ ต้นปีที่ 3.45 ดอลลาร์สหรัฐ/tCO2eq สู่ราคา ณ สิ้นปีที่ 74 เซ็นต์/tCO2eq และปรับราคาลงแตะต่ำสุดในประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการประเมินราคาดัชนีเมื่อเดือนมกราคม 2021 ที่ 45 เซ็นต์/tCO2eq ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2023
.
ดัชนีราคา Platts CNC ที่สะท้อนราคาคาร์บอนเครดิตประเภทหลีกเลี่ยง/ลด หรือดูดซับก๊าซเรือนกระจก (Nature-based solution) อย่างประเภทโครงการ กิจกรรมด้านการเกษตรกรรม ป่าไม้ และการใช้ประโยชน์ที่ดินอื่น ๆ (AFOLU) ภาพรวมของดัชนีลดลงไปมากถึง 95.7% จากราคา ณ ต้นปี 2023 อยู่ที่ 4.65 ดอลลาร์สหรัฐ/tCO2eq สู่ราคา ณ สิ้นปีที่ 20 เซ็นต์/tCO2eq หลังจากการรายงานข่าวด้านลบเกี่ยวกับมาตรฐาน VERRA ที่รับรองโครงการ REDD+ กว่า 90% นั้น "ไร้ประโยชน์"
.
ดัชนีราคา Platts Household Devices ภาพรวมของดัชนีลดลงประมาณ 40.6% จากราคา ณ ต้นปี 2023 อยู่ที่ 8 ดอลลาร์สหรัฐ/ tCO2eq สู่ราคา ณ สิ้นปีที่ 4.75 ดอลลาร์สหรัฐ/tCO2eq โดยราคาลดลงมาระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 อยู่ที่ 4.35 ดอลลาร์สหรัฐ/tCO2eq ผลกระทบส่วนหนึ่งมาจากความน่าเชื่อถือของหลักการและกระบวนการรับรองคาร์บอนเครดิต ถึงแม้ว่ามาตรฐานเจ้าใหญ่อย่าง VERRA ได้มีการปรับปรุงระเบียบวิธีการประเภท Cookstove แต่ก็ยังไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นจากผู้เล่นในตลาดได้มากนัก อย่างไรก็ตาม คาร์บอนเครดิตประเภทนี้ยังคงมีปัจจัยจากด้าน Co-benefit ที่ส่งผลต่อราคา ทำให้ภาพรวมราคาลดลงไม่เยอะมากหากเทียบกับประเภทอื่น ๆ
.
ดัชนีราคา ประเภท Nature-based avoidance ซึ่งสะท้อนราคาคาร์บอนเครดิตที่แข่งขันมากที่สุดในระดับสากล ปรับราคาลงแตะต่ำสุดเช่นกัน จากราคา ณ ต้นปี 2023 ที่ 11.50 ดอลลาร์สหรัฐ/tCO2eq เหลือเพียง 3.50 ดอลลาร์สหรัฐ/tCO2eq ในช่วงปลายปี เพื่อปิดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นนี้ VERRA เริ่มดำเนินการปรับปรุงระเบียบวิธีการ REDD+ ใหม่ ให้สอดรับกับหลักเกณฑ์ Core Carbon Principles ของ ICVCM ครอบคลุมโครงการที่จะขึ้นทะเบียนใหม่และโครงการเก่าที่ดำเนินการอยู่ (Transition) ยังคงต้องรอดูความชัดเจนหลังจากนี้ต่อไป
.
สำหรับข้อน่ากังวลที่สุดจากประเด็นเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือที่ผู้เล่นในตลาดส่วนมากให้ความสำคัญ คือ ดัชนีราคา Platts Renewable Energy เครดิตจากภาคส่วนพลังงานหมุนเวียน (Renewables segment) ถูกมองเป็นเครดิตที่ไม่ค่อยมีคุณภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากนัก อย่างไรก็ตาม คาร์บอนเครดิตจากภาคส่วนนี้ยังเป็นอุปทานส่วนใหญ่ของตลาด แม้ว่าราคาจะมีการดีดตัวสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคมและเดือนสิงหาคม แต่ก็ทำให้การเคลื่อนไหวของราคามีความผันผวนไม่มากนักหากเทียบกับดัชนีราคาอื่น ๆ
.
ในปี 2023 ภาพรวมราคาคาร์บอนเครดิตมีการปรับตัวลดลง ท่ามกลางกระแสด้านลบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถิติการใช้คาร์บอนเครดิต (Retire) เพื่อการชดเชยกลับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 8% คิดเป็นปริมาณ 163 MtCO2eq สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการเครดิตที่สูงขึ้นของผู้เล่นหน้าใหม่ เพื่อนำไปชดเชยทั้งจากภาคบังคับและภาคสมัครใจ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและดึงความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาดทั้งหน้าเก่าและใหม่ และแนวโน้มในปี 2024 คาดการณ์ว่าจากการออกแนวทางปฏิบัติ Core Carbon Principles ขององค์กร ICVCM จะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของการรับรองคาร์บอนเครดิตมากยิ่งขึ้น และการที่องค์กร VCMI ออกแนวทางปฏิบัติ Claim Code of Conduct ก็จะช่วยวางแนวทางการใช้คาร์บอนเครดิตสำหรับการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคเอกชนให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนเช่นกัน รวมถึงความต้องการจากภาคการบินระหว่างประเทศ สำหรับมาตรการ CORSIA ระยะที่ 1 ที่ดำเนินการในช่วง 2024-2026 คาดว่าจะมีความต้องการใช้คาร์บอนเครดิตชดเชยประมาณ 100-200 MtCO2eq ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดคาร์บอนส่งผลให้ราคาคาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง
REDD+ = Reducing Emissions from Deforestation and Forest Degradation, and the Role of Conservation, Sustainable Management of Forests and Enhancement of Forest Carbon Stocks in Developing Countries
CORSIA = Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation
AFOLU = Agriculture, Forestry and Other Land Use
ICVCM = The Integrity Council for Voluntary Carbon Markets
VCMI = Voluntary Carbon Markets Integrity Initiative
.
อ้างอิง:
https://www.spglobal.com/.../010524-price-slump-in-2023...
https://www.spglobal.com/.../method_carbon_credits.pdf
.
ที่มา : องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)