โดยกล้วยไม้ชนิดนี้สำรวจพบที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ความสูงจากระดับน้ำทะเล 400 - 600 เมตร เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย เจริญทางข้าง กอค่อนข้างแน่น ต้นเป็นเหง้ากลมทอดยาว สีเขียวออกเหลือง ปล้องยาว 1-2 เซนติเมตร เส้นผ่าน ศูนย์กลาง 0.2-0.3 เซนติเมตร ต้นยาว 35 เซนติเมตร หรือมากกว่า ใบ เรียงตัวแบบสลับ รูปขอบขนาน ปลายใบเรียวแหลม เว้าบุ๋มไม่เสมอกัน โคนใบเป็นกาบหุ้มรอบข้อ แผ่นใบบางเรียบ กว้าง 1.1-2 เซนติเมตร ยาว 6.7-9 เซนติเมตร ช่อดอก มี 1-3 ดอก ออกที่ข้อ ก้านดอกย่อยยาว 1.8 เซนติเมตร ดอก สีขาว กว้างและยาว 2.1 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงบน รูปรีแกมรูปไข่ ปลายแหลมโค้งไปทางด้านหลัง กว้าง 0.6 เซนติเมตร ยาว 1.2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงคู่ข้าง รูปขอบขนาน ปลายเรียวแหลมโค้ง ไปทางด้านหลัง กว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 1.3 เซนติเมตร กลีบดอก บาง รูปแถบ ปลายเรียวแหลม กว้าง 0.3 เซนติเมตร ยาว 1.2 เซนติเมตร กลีบปาก ยาว 2 เซนติเมตร ฐานกลีบปากส่วนโคนสีน้ำตาลส้ม มีสัน 3 สัน สีส้มเหลืองพาดยาวตลอด สิ้นสุดที่ฐานกลีบปากส่วนปลาย หูกลีบปากสีขาวปลายสีส้ม ปลายกลีบปากหนา สีขาว ขอบสีส้ม ห่อตัวเข้าและหยักเป็นริ้ว มองทางด้านหน้าเป็นรูปตัว V คางยาว 0.8 เซนติเมตร ด้านนอกสีน้ำตาลอมส้ม เส้าเกสรยื่นตัวเล็กน้อย สีขาวออกน้ำตาลอมส้ม พบในป่าดิบชื้น
ช่วงเวลาในการออกดอก สิงหาคม - กันยายน
ที่มา : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช