ค้างคาวดำ
  • 6 พฤศจิกายน 2566
  • 1,503 ครั้ง
ค้างคาวดำ
ค้างคาวดำ ไม้ล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน สูง 50-60 ซม. ใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม แผ่นใบแผ่รูปหอกแกมขอบขนาน ขนาดกว้าง 7-15 ซม. ยาว 20-60 ซม. ก้านใบยาว 15-30 ซม. ดอกสีม่วงดำหรือเขียวเข้ม ออกเป็นช่อลักษณะเป็นกลุ่ม มี 4-6 (25) ดอก ก้านช่อดอกยาว 30-50 ซม. มีใบประดับ 2 คู่ สีเขียวเข้มหรือสีม่วงดำ อยู่ตรงข้าม ใบประดับคู่นอกรูปรี กว้าง 0.5-1 ซม. ยาว 4-6 ซม. ใบประดับคู่ในแผ่กว้าง ขนาด 2-8 ซม. ยาว 2.5-12 ซม. นอกจากนี้ยังมีใบประดับที่ลดรูปเป็นเส้นกลมอีก 5-25 อัน สีม่วงหรือม่วงอมเขียว ขนาดยาว 10-20 ซม. ดอกย่อยกว้าง 0.5-3 ซม. ยาว 1.5-3 ซม. กลีบดอกมีชั้นเดียว 6 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน ผลลักษณะเป็นกระสวยรูปสามเหลี่ยม มีสัน 6 สัน เมื่อแก่ไม่แตก ขนาดกว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 2.5-5 ซม. มีกลีบดอกติดอยู่ไม่หลุดร่วงง่าย
สามารถพบพืชชนิดนี้ได้ในประเทศอินเดีย บังคลาเทศ พม่า จีนตอนใต้ ลาว จนถึงมาเลเซีย และในประเทศไทยพบได้ในป่าดิบชื้น ที่ความสูง 500-1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ชื่อเรียกอื่น (Other name) : ดีงูหว้า คลุ้มเสีย ว่านหัวลา ว่านหัวฬา ดีปลาช่อน เนระพูสีไทย มังกรดำ นิลพูสี กลาดีกลามูยี ม้าถอนหลัก หรือว่านพังพอน
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) : Tacca chantrieri Andr.
ชื่อวงศ์ (Family name) : TACCACEAE
📗 แหล่งอ้างอิง (Reference) : หนังสือพรรณไม้ #สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 2 (Book 'Queen Sirikit Botanic Garden', Vol. 2)
📲 ค้นหาข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ http://www.qsbg.org/.../Botanic_Book.../search_page.asp

สื่อประชาสัมพันธ์ : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์