ศูนย์องค์ความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

แมงกะพรุนกินได้

28 กันยายน 2566
4,023 ครั้ง

แมงกะพรุนกินได้ !

ตามร้านหมูกระทะ ร้านบุฟเฟ่ต์ หรือร้านอาหารทะเลต่าง ๆ จะเห็นได้ว่ามีแมงกะพรุนเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบหนึ่งในอาหารเหล่านั้น แต่แมงกะพรุนที่คุ้นเคยกันในข่าวนั้นมีพิษ มันต่างกับแมงกะพรุนที่เรากินอย่างไร ?

แมงกะพรุน (Jellyfish) เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในไฟลัมไนดาเรีย (Cnidaria) ที่บางชนิดมีพิษที่รุนแรง แต่ชนิดที่บริโภคได้นั้น มีจำนวนมากถึง 17 สายพันธุ์ ซึ่งแมงกะพรุนที่ใช้เป็นอาหารได้ ส่วนใหญ่เป็นแมงกะพรุนใน Class Scyphozoa ในประเทศไทยนั้น พบแมงกะพรุนที่บริโภคได้ 3 สายพันธุ์ คือ 1. แมงกะพรุนหอม (Mastigiad sp.) 2. แมงกะพรุนหนัง (Rhopilema hispidum) และ 3. แมงกะพรุนลอดช่อง (Lobonema smithii) ซึ่งที่เรานิยมรับประทานกันคือ แมงกะพรุนหนังและแมงกะพรุนลอดช่อง โดยนิยมนำมาดองกับน้ำฝาด หรือมาตากแห้งใส่ในอาหารต่าง ๆ หรือนำไปดองเพื่อส่งขายไปยังต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี

แมงกะพรุนนั้นไม่มีรสชาติ ดังนั้น จุดเด่นของแมงกะพรุนอยู่ที่เนื้อสัมผัสที่เหมือนกับการเคี้ยวกระดูกอ่อน กรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน และเนื้อแมงกะพรุนมีคุณค่าทางโภชนาการ คือ มีโปรตีนสูง และมีไขมัน คอเลสเตอรอล และแคลอรี่ต่ำ โดยเฉพาะเป็นโปรตีนประเภทคอลลาเจนที่รับประทานได้

รู้หรือไม่

มีเมนูแมงกะพรุนดองฝาด (ดองเปลือกไม้อินทรีย์) ที่รับประทานคู่กับน้ำจิ้มถั่วตัดด้วยนะ! การนำไปดองฝาดนั้นเพื่อให้สารจากเปลือกไม้ของต้นอินทรีที่นำมาดองกับแมงกะพรุนหนังจะให้สารในกลุ่มแทนนิน ฟลาโวนอยด์ และฟีนอลิก ในแมงกะพรุนดองฝาดซึ่งการศึกษา พบว่าส่งผลให้แมงกะพรุนหนังดองฝาดมีความสามารถในการยับยั้งเชื้อก่อโรคบางชนิด ได้แก่ Bacillus subtilis, Staphylococcus aureus ATCC25923 และ Psuedomonas aeruginosa ATCC27853 ในขณะที่คุณสมบัติยับยั้งเชื้อแบคทีเรียนี้ จะไม่พบในแมงกะพรุนสด

แหล่งข้อมูล :